ทุกคนในคอบครัวควรให้ความสนใจเรื่องของ ไฟรั่ว และต้องระมัดระวังให้มากที่สุดเป็นอันดับแรกเลย เพราะอันตรายถึงขั้นำให้ไฟไหม้บ้านได้เลย แต่จะทราบได้อย่างไร ? ว่าบ้านมีกระแสไฟรั่วหรือไม่ ตรงไหน แต่ไม่ต้องกังวลใจไป บริษัทรับสร้างบ้าน ขอแนะนำว่าคุณเองก็สามารถตรวจสอบว่าไฟรั่วหรือไม่ ได้เอง แบบง่ายๆ เอาหละ อยากให้ทุกท่านศึกษาข้อมูล วิธีแก้ปัญหา ไฟรั่ว เพื่อเป็นการป้องกันอัตรายจากไฟรั่วที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต ขอแนะนำบริษัทรับสร้างชั้นนำ สร้างบ้านสวย ออกแบบบ้าน ดำเนินการต่างๆ ครบจบที่เดียว !!
วิธีตวจเช็คว่าบ้านมี ไฟรั่วหรือไม่ ด้วยตัวเอง
- ปิดเครื่องใช้ไฟฟ้าทุกชนิด โดยที่ไม่ต้องสับคัทเอาท์หรือเบรกเกอร์ลง ให้ท่านลองสังเกตที่ตรงมิเตอร์ของที่บ้านว่าแผ่นจานหมุนอยู่หรือไม่ ถ้ายังหมุนอยู่ ให้ไปเช็คอีกครั้งว่า ปิดไฟทุกดวงหมดหรือไม่ แต่ถ้ามั่นใจแล้วว่า ปิดไฟทุกดวงแล้ว แสดงว่ามีกระแสไฟฟ้ารั่วเกิดขึ้นในบ้านของคุณนั่นเอง
- อย่าวางใจแม้มิเตอร์จะหยุดหมุนแล้ว คุณจะต้องจดหมายเลขมิเตอร์และจดจำตำแหน่งแผ่นหมุนว่าหยุดอยู่ที่ตำแหน่งใด หลังจากนั้นทิ้งไวประมาณ 1 ชั่วโมง แล้วกลับมาตรวจสอบดูอีกรอบ ! ถ้าทุกอย่างเป็นเหมือนเดิม แสดงว่าไม่มีกระแสไฟฟ้ารั่วเกิดขึ้นภายในบ้านของคุณ
- กรณีที่ มีกระแสไฟฟ้ารั่ว แต่ไม่มั่นใจว่ารั่วมาจากเครื่องใช้ไฟฟ้าใด เจ้าของบ้านจะต้องใช้ไขควงวัดไฟแตะไปที่เครื่องใช้ไฟฟ้าเหล่านั้น หากพบว่ามีแสงปรากฏขึ้นมาที่ไขควงแสดงว่าเกิดไฟฟ้ารั่ว ให้หยุดใช้ทันที และนำเครื่องใช้ไฟฟ้าไปซ่อมให้ปกติ หรือทิ้งไปเลย
เช็คก่อนไฟช็อต 4 สัญญาเตือนไฟกำลังรั่ว
พูดถึงระบบหลักๆ ภายในบ้านที่สำคัญและต้องให้ความใส่ใจเป็นพิเศษ คงต้องยกให้งานระบบไฟฟ้า เพราะเป็นงานที่ซับซ้อน หากการเดิน สายไฟ ไม่ได้มาตรฐาน
รับเหมาก่อสร้างอุปกรณ์ชำรุดเสื่อมสภาพ
ขาดการตรวจเช็ค และบำรุงรักษา
สิ่งเหล่านี้จะสร้างปัญหาใหญ่ขึ้นกับตัวบ้านและผู้อยู่อาศัย ยกตัวอย่างเช่น
ปัญหาไฟฟ้าลัดวงจร ไฟช็อต
การรั่วไหลของกระแสไฟฟ้าใน เครื่องใช้ไฟฟ้า ทำให้เกิดความร้อนสูง
และถ้าหากว่าเกิดความร้อนสะสมเป็นเวลานานจะเป็นสาเหตุให้เกิด เพลิงไหม้ ทำให้สร้างความสูญเสียอย่างมากกับทรัพย์สินและชวิตได้
4 จุดสังเกตสัญญาณเตือนว่ามีไฟฟ้ารั่ว
1. ค่าไฟสูงขึ้นผิดปกติ
หากท่านพบว่าบิลค่าไฟฟ้าสูงขึ้นแบบผิดปกติมาก เป็นความผิดปกติที่ไม่ได้เกิดจากการเพิ่มค่า FT ของการไฟฟ้า ให้ท่านลองตรวจเช็คด้วยการสังเกตการหมุนของมิเตอร์ว่ามี ความเร็วสม่ำเสมอหรือไม่ หรือไม่ก็ทำการทดสอบด้วยการ จดเลขมิเตอร์ ไว้ก่อน จากนั่นไปปิดเครื่องใช้ไฟฟ้าทุกชนิดในบ้านโดยไม่ต้องดึงคัทเอาท์ลง แล้วให้สังเกตว่าแผ่นจานในมิเตอร์หมุนหรือไม่ ถ้าหากว่าแผ่นจานในมิเตอร์ยังหมุนอยู่ให้ทิ้งไวซักพักแล้วกลับมาดู ถ้ายังหมุนอยู่แสดงว่าบ้านของคุณมีไฟรั่วเกิดขึ้น
2. เครื่องตัดไฟทำงานบ่อย
เครื่องตัดไฟรั่ว เป็นอุปกรณ์ที่ทุกบ้านจำเป็นจะต้องมี โดยอุปกรณ์ตัดไฟจะมีให้เลือก 2 แบบ คือ
RCCB ใช้ตัดไฟรั่วอย่างเดียวเฉพาะจุด
RCBO ใช้ตัดไฟทั้งไฟรั่ว ไฟเกิน ไฟช็อต และไฟฟ้าลัดวงจร แบบครอบครุมทั้งบ้าน
ดังนั้นแล้วหากเบรกเกอร์ตัดไฟบ่อยให้ลองตรวจสอบที่ตัวเครื่องก่อนว่าทำงานปกติหรือไม่
3. สัมผัสเครื่องใช้ไฟฟ้าแล้วไฟดูด
โดยปกติแล้วบ้านจะมีการติดตั้งสายดินไว้ในเครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีโอกาศเกิดไฟรั่วได้ง่าย เช่น เครื่องทำน้ำร้อน ตู้เย็น เป็นต้น ตัวสายดินทำหน้าที่นำพาไฟฟ้าที่รั่วไฟลลงดิน แทนที่จะไหลผ่านร่างกายของเรา ในกรณีที่ติดตั้งสายดินและเบรกเกอร์แล้ว แต่เมื่อ มือ ไปสัมผัสโดน เครื่องใช้ไฟฟ้าแล้วรู้สึกว่าถูกไฟดูดบ่อยๆ สาเหตุมาจาก
ไฟฟ้ารั่วในวงจรไฟฟ้า
หรือเครื่องใช้ไฟฟ้า
ให้ทดสอบด้วย ไขควงวัดไฟฟ้า (Test Lamp) แตะที่ของใช้หรือบริเวณที่สงสัย หากไขควงมีไฟสว่างขึ้นแสดงว่าเกิดไฟฟ้ารั่วไหลจาดจุดนั้น
4. อุณหภูมิในบ้านสูงขึ้นแบบผิดปกติ
ยกตัวอย่างข่าวดัง พบบ้านเกิดเหตุการณ์พื้นบ้านร้อนผิดเปกติ อุณหภูมิสูงมากกว่า 60 องศา แต่เมื่อเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ตรวจสอบ ทำการตรวจสอบด้วยวิธีตัดวงจรไฟฟ้าภายในห้องพบว่า อุณหภูมิภายในบ้านลดลงเป็นปกติ จึงได้ทำการตวจสอบสายไฟฟ้าบริเวณฝ้าที่บาร์เพดานบ้าน พบว่า เกิดไฟฟ้ารั่ว 1 แห้ง เป็นสาเหตุให้ ไฟฟ้าไหลลงดินไปตามคานปูนเสริมเหล็กใต้พื้นดินทำให้บ้านร้อน ในกรณีดังกราวหากอุณหภูมิภายในบ้านเกิดการเปลี่ยนแปลงแบบนี้ อาจจะมีที่มาไฟฟ้ารั่วได้ ทำให้ค่าไฟเพิ่มขึ้นอีกด้วย
ตรวจเช็คระบบไฟฟ้าภายในบ้าน
รับเหมาก่อสร้าง เราขอแนะนำว่าบ้านที่มีอายุการใช้งานมานาน บวกกับข้าวของเครื่องใช้ไฟฟ้ามีเป็นจำนวนมากแบบนี้ ควรได้รับการตรวจเช็คสภาพเป็นระยะ เพื่อเป้องกัน ประเมินปัญหา และแก้ไขระบบสายไฟฟ้าให้ทำงานได้อย่างปลอดภัย วิธีแก้ปัญหา ไฟรั่ว ตวจเช็คจุดสำคัญภายในบ้าน 6 จุด
ตรวจเช็คมิเตอร์ไฟฟ้า
ตรวจเช็คการเชื่อมต่อสายไฟ
ตรวจเช็คปลั๊กทุกจุด
ตรวจเช็คตู้ไฟประจำบ้าน
ตรวจเช็คสายดิน
ตรวจเช็คอุปกรณ์ควบคุม เบรคเกอร์
ดังนั้นแล้วสรุปได้ว่า อุปกรณ์ไฟฟ้าทุกชนิดในบ้าน ถือเป็นอุปกรณ์ไฟฟ้าที่มีกระแสไฟฟ้าไหลผ่านตลอดเวลา ถ้าหากว่าอุปกรณ์ไฟฟ้าเหล่านี้ไม่ได้มาตรฐานในการผลิตที่ดีพอ ก็อาจจะทำให้เกิดอาการไฟฟ้าช็อต ไฟดูด และปัญหาไฟฟ้าลัดวงจรตามมา หากท่านไดที่อ่านมาจนจบและรู้วิธีการตรวจเช็คอุปกรณ์ไฟฟ้าที่คาดว่าจะมีอาการไฟรั่วได้แล้ว ถ้าหากท่านเจออาการรั่วไหลของไฟฟ้า ก็ให้รีบนำอุปกรณ์เหล่านั่นไปซ่อมให้ใช้งานได้ปกติ
ซ่อมบำรุงอาคาร: วิธีตวจเช็คว่าบ้านมี ไฟรั่วหรือไม่ อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ https://snss.co.th/dt_post/technical-services/