พิมพ์

[siritidaphon]

ดอกบัวอบแห้ง: รู้จักกับชนิดดอกไม้ พร้อมวิธีการจัดดอกไม้สำหรับมือใหม่

การมีช่อดอกไม้สวย ๆ ในบ้านไม่จำเป็นจะต้องซื้อช่อสำเร็จรูปราคาแพงเสมอไป คุณเองก็สามารถจัดดอกไม้เองได้ง่าย ๆ เพียงแค่รู้จักพื้นฐานของการจัดดอกไม้ จะพาคุณไปรู้จักกับชนิดของดอกไม้ต่าง ๆ พร้อมกับเทคนิคพื้นฐานของการจัดดอกไม้

Spike Flowers
Spike flowers เป็นดอกไม้ที่มีก้านเรียวยาวและโตเป็นแนวตั้งตรง ไม่งอหรือบิดไปทิศทางอื่น เลยได้อีกชื่อว่าเป็น “Line flowers” หรือดอกไม้เส้นตรง โดยส่วนมากแล้ว Line flowers จะถูกใช้เพื่อสร้าง “โครง” และเอาไว้สร้างเส้นนำสายตา ตัวอย่างของ Spike flowers คือ :

    ดอกลิ้นมังกร
    ดอกเดลฟินเนียม
    ดอกเวโรนิก้า
    ดอกซ่อนกลิ่น
    ดอกสต๊อค


Form Flowers
Form flowers คือดอกไม้ที่มีรูปร่างหรือพื้นผิวที่น่าสนใจ เป็นดอกไม้ที่ถูกใช้บ่อยในการจัดดอกไม้เพราะจะถูกนำใช้เป็น Filler flowers (อ่านต่อข้างล่าง) ตัวอย่างของ Form Flowers คือ :

    ดอกสวีตพี
    ดอกเบญจมาศ
    ดอกคาเนชั่น
    ดอกบานชื่น
    ดอกเยอบีร่า


Focal Flowers
Feature flowers หรือ Focal flowers จะเอาไว้ใช้เรียกดอกไม้ที่บานที่สุดในแจกัน และ “สวย” ที่สุด เป็นดอกไม้ตัวเอกที่จะใช้ไม่มากและเอาไว้ใช้ดึงดูดความสนใจ ตัวอย่างของ Feature flowers เช่น :

    ดอกทิวลิป
    ดอกกุหลาบ
    ดอกหน้าวัว
    ดอกลิลี
    ดอกเยอบีร่า


Filler Flowers
และในแบบสุดท้ายก็คือชนิดที่เรียกว่า “Filler flowers” หรือดอกไม้ไซส์เล็ก-ปานกลาง ที่มีใบออกเยอะ จะเอาไว้แทรกช่องว่างระหว่างพวกดอกไม้ใหญ่ ทำให้รูปลักษณ์โดยรวมของแจกันดอกไม้ดูสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น ตัวอย่างของ Filler flowers คือ :

    ดอกยิบโซ
    ดอกแวกซ์
    ดอกสแตติส
    ควีน แอนส์ เลซ
    ดอกฟล็อกซ์

เทคนิคการจัดดอกไม้
การจัดดอกไม้ที่ดีจะต้องเลือกใช้ขนาดและชนิดดอกไม้ที่เหมาะสม และไม่ควรจัดให้ดอกไม้ในแจกันให้เยอะจนดู “อึดอัด” ควรมีความสมดุลระหว่างดอกไม้เล็กและดอกไม้ใหญ่ สำหรับการจัดดอกไม้ เราจะโฟกัสอยู่ 3 อย่างด้วยกันซึ่งก็คือ Foliage, Focal และ Filler

Foliage
เริ่มจากการเลือก Line flowers มาเป็นโครงสร้างและเส้นนำสายตาของแจกัน ให้เลือกดอกไม้ที่มีลักษณะกิ่งเรียวยาว มีใบขนาดเล็ก และไม่เลือกใบที่มีสีฉูดฉาด

Focal
ดอกไม้ Focal ควรจะเป็นดอกขนาดใหญ่ที่บานประมาณ 3-6 นิ้ว ตามเส้นผ่านศูนย์กลางและจัดวางไม่ให้กระจุกอยู่แค่ตรงกลางของแจกัน ควรมีการไล่ระดับสูงต่ำและการกระจายกลุ่มไปซ้ายบ้าง ขวาบ้าง เพื่อเลียนแบบการโตของดอกไม้ที่เป็นธรรมชาติ กฎง่าย ๆ ของการจัดดอกไม้ Focal คือเลือกขนาดใหญ่ สีชัดเจน ดอกเบิกบาน และเลือกจำนวนดอกเลขขี่ (1, 3, 5, 7, 9)

Filler
ปิดท้ายด้วยดอก Filler เพื่อเติมเต็มจุดว่างให้แจกันดูสมบูรณ์ โดยที่ดอกไม้ Filler สามารถเลือกใช้ขนาดที่บาน 0.25-0.5 นิ้ว ตามแนวเส้นผ่านศูนย์กลาง หรือใช้ขนาดที่ใหญ่ขึ้นมาเล็กน้อยอย่าง Form flowers ที่บาน 1.5-3 นิ้ว ตามแนวเส้นผ่านศูนย์กลาง ดอกที่เล็กกว่าจะสร้าง “Texture” ให้กับช่อดอกไม้ ส่วนดอกที่ใหญ่ขึ้นมาอย่าง Form flowers จะทำหน้าที่ช่วยส่งเสริมดอกไม้ใหญ่อย่าง Focal flowers