หอพักขอนแก่น,หอพัก ขจรศักดิ์ ขอนแก่น, หอพัก ศศิธร ขอนแก่น, หอพัก ถูก ขอนแก่น, หอพัก อยู่สบาย ขอนแก่น หน้าค่าย ร.8 ใกล้สนามบินขอนแก่น,

ผู้เขียน หัวข้อ: ประเภทผ้ากันไฟ ช่วยลดความเสี่ยงจากอัคคีภัย  (อ่าน 6 ครั้ง)

siritidaphon

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2648
    • ดูรายละเอียด

ประเภทผ้ากันไฟ ช่วยลดความเสี่ยงจากอัคคีภัย

ผ้ากันไฟมีหลายประเภท ซึ่งแต่ละประเภทถูกออกแบบมาเพื่อทนทานต่ออุณหภูมิที่แตกต่างกัน และมีบทบาทสำคัญในการลดความเสี่ยงจากอัคคีภัยในสถานการณ์ต่างๆ ดังนี้ครับ:

ประเภทของผ้ากันไฟและการลดความเสี่ยงจากอัคคีภัย:


ผ้าใยแก้ว (Fiberglass Fabric / Glass Wool):

คุณสมบัติ: เป็นผ้าที่ผลิตจากเส้นใยแก้ว มีความแข็งแรง ทนทานต่ออุณหภูมิสูงปานกลาง (โดยทั่วไปใช้งานต่อเนื่องได้ถึงประมาณ 550°C) ไม่ลามไฟ และไม่เป็นเชื้อเพลิง
การลดความเสี่ยงจากอัคคีภัย:
ป้องกันสะเก็ดไฟ: เหมาะสำหรับงานเชื่อม งานตัด งานเจียร ที่มีสะเก็ดไฟหรือประกายไฟกระเด็น ช่วยป้องกันไม่ให้สะเก็ดไฟไปตกใส่และจุดติดวัสดุไวไฟที่อยู่ใกล้เคียง
กั้นโซนทำงาน: ใช้เป็นม่านหรือฉากกั้นเพื่อแยกโซนทำงานที่มีความร้อนหรือประกายไฟออกจากพื้นที่อื่น ๆ ที่อาจมีวัสดุไวไฟ
หุ้มชั่วคราว: ใช้หุ้มอุปกรณ์หรือโครงสร้างที่ต้องการการป้องกันชั่วคราวจากความร้อนหรือเปลวไฟ
ข้อควรระวัง: ผ้าใยแก้วบางชนิดที่ไม่ได้เคลือบสารพิเศษอาจทำให้เกิดอาการคันหรือระคายเคืองต่อผิวหนังได้ (ปัจจุบันมีชนิดที่เคลือบสารเพื่อลดอาการคัน)


ผ้าใยแก้วเคลือบซิลิโคน (Silicone Coated Fiberglass Fabric):

คุณสมบัติ: คือผ้าใยแก้วที่ถูกเคลือบด้วยซิลิโคน มีความทนทานต่ออุณหภูมิสูงใกล้เคียงกับใยแก้วปกติ (ประมาณ 550°C) แต่เพิ่มคุณสมบัติอื่นๆ เข้ามา
การลดความเสี่ยงจากอัคคีภัย:
ป้องกันการซึมผ่าน: ซิลิโคนเคลือบผิวช่วยป้องกันการซึมผ่านของของเหลว เช่น น้ำมัน สารเคมี หรือสะเก็ดโลหะหลอมเหลว ทำให้ป้องกันการลุกลามของไฟได้ดีขึ้นในกรณีที่มีของเหลวไวไฟ
ลดอาการคัน: การเคลือบซิลิโคนช่วยลดการฟุ้งกระจายของเส้นใยแก้ว ทำให้ลดการระคายเคืองต่อผู้ใช้งาน
ทำความสะอาดง่าย: พื้นผิวที่เคลือบซิลิโคนทำให้ทำความสะอาดคราบสกปรกได้ง่ายขึ้น


ผ้าซิลิก้า (Silica Fabric):

คุณสมบัติ: ผลิตจากเส้นใยซิลิก้าที่มีปริมาณซิลิก้าสูง (โดยทั่วไป 96% ขึ้นไป) ทำให้ทนทานต่ออุณหภูมิสูงได้ดีกว่าใยแก้วมาก (ใช้งานต่อเนื่องได้ถึงประมาณ 1,000°C - 1,100°C และทนความร้อนสูงสุดในระยะสั้นได้ถึง 1,600°C)

การลดความเสี่ยงจากอัคคีภัย:
งานหนักและอุณหภูมิสูง: เหมาะสำหรับงานเชื่อมหรือตัดที่สร้างความร้อนสูงมาก หรือมีสะเก็ดไฟขนาดใหญ่และร้อนจัด
ป้องกันการแผ่รังสีความร้อน: ด้วยคุณสมบัติการทนความร้อนที่สูง ทำให้ช่วยป้องกันการแผ่รังสีความร้อนจากแหล่งกำเนิดได้ดีกว่า


ผ้าเซรามิกไฟเบอร์ (Ceramic Fiber Cloth):

คุณสมบัติ: ผลิตจากเส้นใยเซรามิก ทนทานต่ออุณหภูมิได้สูงที่สุดในบรรดาผ้ากันไฟที่กล่าวมา (ใช้งานต่อเนื่องได้ถึงประมาณ 1,260°C หรือสูงกว่า) ไม่ติดไฟ ไม่ลามไฟ

การลดความเสี่ยงจากอัคคีภัย:
งานอุณหภูมิสูงพิเศษ: ใช้ในงานที่ต้องการการป้องกันความร้อนและไฟในระดับสูงสุด เช่น หุ้มท่อไอน้ำที่มีอุณหภูมิสูงมาก บุเตาอบอุตสาหกรรม หรือใช้เป็นฉนวนกันไฟในจุดที่มีความเสี่ยงสูงมาก
ทนทานต่อการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิ: สามารถทนทานต่อการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิแบบฉับพลันได้ดี


ผ้าห่มดับไฟ (Fire Blanket):

คุณสมบัติ: โดยทั่วไปทำจากใยแก้วหรือใยหิน มักจะมีขนาดกะทัดรัด พร้อมช่องสำหรับจับ ถือเป็นอุปกรณ์ดับเพลิงเบื้องต้น

การลดความเสี่ยงจากอัคคีภัย:
ดับไฟขนาดเล็ก: ใช้คลุมไฟที่เพิ่งเริ่มต้น (เช่น ไฟไหม้น้ำมันในกระทะ, ไฟไหม้ถังขยะ) เพื่อตัดออกซิเจนไม่ให้ไฟลุกลาม
ห่มคลุมร่างกาย: ในกรณีฉุกเฉิน สามารถใช้ห่มคลุมร่างกายเพื่อป้องกันความร้อนและเปลวไฟขณะหนีออกจากพื้นที่เกิดเหตุ

บทบาทของผ้ากันไฟในการลดความเสี่ยงจากอัคคีภัยโดยรวม:

การจำกัดวงไฟ: ผ้ากันไฟทำหน้าที่เป็นเกราะป้องกันการแพร่กระจายของไฟ ช่วยจำกัดวงไฟให้อยู่ในพื้นที่ที่จำกัด ลดความเสียหายโดยรวม
การป้องกันวัสดุไวไฟ: ช่วยปกป้องวัสดุไวไฟ เฟอร์นิเจอร์ หรืออุปกรณ์ที่อยู่ใกล้เคียงแหล่งกำเนิดประกายไฟหรือความร้อนสูง
การเพิ่มเวลาตอบสนอง: การที่ไฟไม่ลุกลามอย่างรวดเร็ว ทำให้มีเวลามากขึ้นในการเรียกหน่วยดับเพลิง อพยพผู้คน หรือใช้สารดับเพลิงเข้าควบคุมสถานการณ์
การป้องกันบุคคล: ใช้ห่มคลุมตัวบุคคลเพื่อป้องกันความร้อนและเปลวไฟ
การลดแหล่งกำเนิดไฟ: ในงาน Hot Work เช่น งานเชื่อม ผ้ากันไฟช่วยป้องกันไม่ให้สะเก็ดไฟไปจุดติดเชื้อเพลิงอื่นๆ ลดโอกาสการเกิดไฟไหม้ตั้งแต่ต้น

การเลือกใช้ประเภทของผ้ากันไฟที่เหมาะสมกับลักษณะงานและระดับอุณหภูมิเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุดในการป้องกันและลดความเสี่ยงจากอัคคีภัยครับ
บันทึกการเข้า