หอพักขอนแก่น,หอพัก ขจรศักดิ์ ขอนแก่น, หอพัก ศศิธร ขอนแก่น, หอพัก ถูก ขอนแก่น, หอพัก อยู่สบาย ขอนแก่น หน้าค่าย ร.8 ใกล้สนามบินขอนแก่น,

ผู้เขียน หัวข้อ: บริการทำความสะอาด: วิธีทำความสะอาดบ้าน เปลี่ยนบ้านให้ปลอดโปร่งได้ไม่ยาก  (อ่าน 7 ครั้ง)

siritidaphon

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2760
    • ดูรายละเอียด

บริการทำความสะอาด: วิธีทำความสะอาดบ้าน เปลี่ยนบ้านให้ปลอดโปร่งได้ไม่ยาก

การเปลี่ยนบ้านที่อับทึบให้กลายเป็นพื้นที่ที่ โปร่ง โล่ง สบาย และ หายใจได้เต็มปอด ไม่ใช่แค่การทำความสะอาดครั้งใหญ่เท่านั้นค่ะ แต่เป็นการจัดการกับแสง กลิ่น และความรกอย่างเป็นระบบ ลองนำวิธีเหล่านี้ไปใช้ดูนะคะ


1. เคลียร์ความรกเพื่อเปิดพื้นที่ (Decluttering for Space)

ความรู้สึกอับทึบมักเกิดจาก "ของที่เยอะเกินไป" การจัดการความรกจึงสำคัญที่สุด

กำจัดสิ่งที่ไม่ได้ใช้ (Purge Regularly): จัดการกับสิ่งของที่คุณไม่ได้ใช้มานานเกิน 6 เดือนถึง 1 ปี ทิ้ง บริจาค หรือขาย ออกไปทันที ของที่ไม่ได้ใช้ถือเป็นแหล่งสะสมฝุ่นชั้นดี และทำให้บ้านรู้สึกหนักอึ้ง

เคลียร์พื้นผิวให้ว่าง (Clear Flat Surfaces): พื้นผิวเรียบ เช่น โต๊ะ เคาน์เตอร์ และชั้นวางของ ควรมีของวางให้น้อยที่สุด การเห็นพื้นที่ว่างจะทำให้ห้องดูกว้างขวางและสะอาดตา

มองหาพื้นที่ที่มองไม่เห็น (Clean Hidden Spaces): อย่ามองข้ามหลังตู้ ใต้เตียง หรือมุมตู้เสื้อผ้าที่มืด ๆ เพราะเป็นแหล่งสะสมพลังงานลบและสิ่งสกปรกที่ทำให้เกิดกลิ่นอับได้


2. จัดการอากาศและกลิ่นอับ (Air & Odor Management)

บ้านที่ "ปลอดโปร่ง" ต้องมีอากาศที่ถ่ายเทและสดชื่น

เปิดหน้าต่างรับลม (Cross Ventilation): เปิดหน้าต่างและประตูทั้งสองด้านของห้อง (ถ้าทำได้) อย่างน้อย 10-15 นาทีต่อวัน เพื่อให้ อากาศถ่ายเท (Air Flow) ไล่อากาศเก่าที่อับชื้นออกไปและนำอากาศใหม่เข้ามา

ทำความสะอาดแหล่งกำเนิดกลิ่น:

ท่อระบายน้ำ: ล้างท่อระบายน้ำในอ่างล้างหน้า/อ่างอาบน้ำเป็นประจำ เพื่อป้องกันผมและคราบสบู่ที่สะสมจนเกิดกลิ่นเหม็น

ถังขยะ: ล้างถังขยะและใส่เบกกิ้งโซดาที่ก้นถังเพื่อช่วยดูดซับกลิ่น

เครื่องครัว: เช็ดทำความสะอาด เครื่องดูดควัน และ ผนังครัว เพื่อกำจัดคราบน้ำมันที่จับตัวเป็นกลิ่นเหม็นหืน

ใช้ตัวดูดซับกลิ่นธรรมชาติ: วางถ่านหุงต้ม หรือเบกกิ้งโซดาไว้ในตู้เย็น ตู้เสื้อผ้า หรือมุมห้องเพื่อช่วยดูดซับความชื้นและกลิ่น


3. จัดการฝุ่นละเอียดและคราบสกปรก (Dust & Deep Cleaning)

ฝุ่นคือศัตรูหลักของความรู้สึก "สดชื่น" ในบ้าน

เน้นการปัดฝุ่นที่สูงและผ้า (Dusting High Areas and Fabrics): ฝุ่นที่เกาะตาม มุ้งลวด ผ้าม่าน โคมไฟ และ พรม คือแหล่งทำให้บ้านรู้สึกสกปรกและเป็นสาเหตุของอาการภูมิแพ้ ควร:

ดูดฝุ่น/ซักผ้าม่านและพรมเช็ดเท้า อย่างน้อยเดือนละครั้ง

ใช้ผ้าชุบน้ำหมาดๆ หรือผ้าไมโครไฟเบอร์ เช็ดฝุ่น จากบนลงล่าง เพื่อให้ฝุ่นถูกเก็บ ไม่ฟุ้งกระจาย

เช็ดกระจกให้ใส (Clean Windows and Mirrors): กระจกและหน้าต่างที่ใสสะอาดจะ เพิ่มแสงธรรมชาติ ให้เข้าบ้านได้มากขึ้น ทำให้ห้องดูสว่างและกว้างขึ้นทันที

ทำความสะอาดที่นอน: ดูดฝุ่นที่นอน และซักผ้าปูที่นอน/ปลอกหมอนอย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง เพื่อกำจัดไรฝุ่นและเซลล์ผิวที่ตายแล้ว


4. เพิ่มพลังงานและความมีชีวิตชีวา (Adding Life and Freshness)

สุดท้ายคือการตกแต่งและเพิ่มองค์ประกอบที่ช่วยให้บ้านรู้สึกมีชีวิตชีวา

เปิดรับแสงธรรมชาติ (Maximize Natural Light): ดึงผ้าม่านหรือมูลี่เปิดรับแสงให้มากที่สุดในเวลากลางวัน แสงสว่างเป็นปัจจัยสำคัญที่สุดที่ทำให้บ้านดูปลอดโปร่ง

เพิ่มต้นไม้ในร่ม (Bring in Plants): ต้นไม้ เช่น ลิ้นมังกร (Snake Plant) หรือ พลูด่าง (Pothos) ไม่เพียงแต่ช่วยตกแต่ง แต่ยังช่วย ฟอกอากาศ และนำพลังงานชีวิตชีวาเข้าสู่บ้านได้

สร้างกลิ่นหอมสะอาด: ต้มน้ำกับเปลือกมะนาว/ส้ม หรือสมุนไพร เช่น โรสแมรี่ และอบเชย (Simmer Citrus) บนเตาในอุณหภูมิต่ำ การทำเช่นนี้จะสร้างกลิ่นหอมสะอาดที่กระจายไปทั่วบ้านอย่างเป็นธรรมชาติ

ลองเริ่มจากการ เคลียร์ความรก และ เปิดหน้าต่างระบายอากาศ เป็นสองขั้นตอนแรกดูนะคะ แล้วคุณจะเห็นความเปลี่ยนแปลงในทันทีเลยค่ะ
บันทึกการเข้า