มนุษย์เงินเดือนที่นั่งทำงานอยู่ในออฟฟิศทั้งวัน คงมีอาการง่วงนอนกันบ้างใช่ไหมคะ ยิ่งเวลาเจ้านายเรียกประชุม โอย...ตาจะปิดให้ได้เลยจริง ๆ แต่ถ้าไม่อยากสัปหงกกลางห้องประชุม หรือมีอาการหาวหวอด ๆ บวกตาปรือหน่อย ๆ ดูไม่แอ็คทีฟ วันนี้มีวิธีแก้ง่วงเวลาทำงานมาฝากค่ะ ยิ่งใครชอบง่วงนอนตอนประชุมยิ่งต้องจัดเพื่อความก้าวหน้าในหน้าที่การงานของตัวเองด่วน ๆ เลย
1. จัดคาเฟอีน
คาเฟอีนเป็นตัวช่วยที่ดีเวลาที่เราง่วงนอน ดังนั้นใครรู้ตัวว่าวันนี้อาการร่อแร่ ต้องง่วงในที่ประชุมแน่ ๆ ก็เตรียมกาแฟหรือชาให้พร้อม ดื่มเพิ่มความสดชื่นให้ตัวเองสักหน่อย หรือถ้าพกไปในห้องประชุมได้ด้วยก็อย่ารอช้า จิบกาแฟแก้ง่วงไปพลาง ๆ ประชุมไปพลาง ๆ ซะเลย
2. จิบน้ำเย็นก็ช่วยได้
สำหรับคนที่ไม่ดื่มกาแฟ ไม่ค่อยโอเคกับเครื่องดื่มคาเฟอีน หันมาพึ่งน้ำเปล่าแทนก็ได้ค่ะ จิบน้ำเปล่าบ่อย ๆ เติมความสดชื่นให้ร่างกายเรื่อย ๆ ความง่วงก็มาเยือนไม่ได้ง่าย ๆ อ้อ ! น้ำเปล่ายังจะช่วยเพิ่มออกซิเจนในเลือด ช่วยให้เลือดไปเลี้ยงสมองได้อย่างมีประสิทธิภาพขึ้น ส่งเสริมให้ความคิดลื่นไหลมากขึ้นด้วยนะคะ
3. ของว่างแก้ง่วงสักหน่อยก็ดี
ถ้าเครื่องดื่มก็เอาไม่อยู่ จัดอาหารแก้ง่วงให้ตื่นกันไปข้างเลยดีกว่า อย่างอัลมอนด์ เคี้ยวเพลิน ๆ กินไม่ยาก ช็อกโกแลตที่มีส่วนผสมของคาเฟอีนอยู่ไม่น้อย หรือสายเฮลธ์ตี้จะจัดผลไม้แช่เย็นรสออกเปรี้ยวนิด ๆ อย่างสับปะรด มะม่วง มะกอก ไว้กินเล่นตอนประชุมก็ช่วยให้ตื่นได้เหมือนกัน
4. อมลูกอม
แต่ถ้าออฟฟิศไหนค่อนข้างเข้มงวด พกอาหารเข้าไปกินด้วยไม่ได้ แนะนำให้อมลูกอมแก้ง่วงแทนเลยค่ะ โดยเลือกลูกอมรสเปรี้ยว ๆ หรือรสมินต์ที่ให้ความสดชื่นได้ทันที ปลุกตัวเองให้ตื่นแบบเนียน ๆ ไม่ต้องกลัวโดนตำหนิ
5. นั่งแถวหน้าไปเลย
ไม้เด็ดสำหรับคนที่มักจะง่วงตอนประชุม ลองแก้เคล็ดให้ตัวเองด้วยการนั่งแถวหน้าดูก็ได้ค่ะ ประจันหน้ากับวิทยากรหรือเจ้านายแบบสบตากันจะจะ สติจะได้อยู่กับการทำงานไม่ต้องคิดถึงหมอนนุ่ม ๆ และเตียงนอน
6. หาที่นั่งที่ไม่ค่อยสบาย
ความสบายจะเอื้อให้เรารู้สึกอยากพักผ่อน ดังนั้นในเวลาที่เราพักผ่อนไม่ได้อย่างตอนประชุมก็ลองหาวิธีที่ทำให้ตัวเองไม่สุขสบายมาป้องกันความง่วงไปเลย เช่น นั่งบนเก้าอี้ที่ไม่มีพนักพิง หรือนั่งหลบแอร์ให้ตัวเองรู้สึกร้อน ๆ หรือหากเป็นไปได้จะยืนประชุมก็ช่วยเพิ่มความแอ็คทีฟให้ร่างกายได้เป็นอย่างดีเหมือนกันค่ะ
ดูแลสุขภาพ: วิธีแก้ง่วงตอนทำงาน แม้จะประชุมก็เบิกบานไม่สัปหงก ! อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ https://www.healthyhitech.net/