หอพักขอนแก่น,หอพัก ขจรศักดิ์ ขอนแก่น, หอพัก ศศิธร ขอนแก่น, หอพัก ถูก ขอนแก่น, หอพัก อยู่สบาย ขอนแก่น หน้าค่าย ร.8 ใกล้สนามบินขอนแก่น,

ผู้เขียน หัวข้อ: ดูแลสุขภาพ: วิธีป้องกันเชื้อหวัด แพร่กระจายในที่ทำงาน  (อ่าน 284 ครั้ง)

siritidaphon

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2590
    • ดูรายละเอียด

ช่วงนี้เพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ในออฟฟิศต่างก็มีอาการไอ จามกันคนละทีสองที สลับกันไอเป็นพักๆ เพราะช่วงปลายปีแบบนี้ อากาศเปลี่ยนทีไร เชื้อไวรัสก็เริ่มทำงานทุกที จริงๆ แล้วถ้าป่วยก็ควรนอนพักรักษาตัวอยู่ที่บ้าน แต่ถ้าจำเป็นต้องมาทำงานจริงๆ ก็ควรป้องกันการแพร่เชื้อหวัดของตัวเอง เพื่อความปลอดภัยของสุขภาพเพื่อนร่วมงาน และตัวเองด้วย


เป็นหวัด เมื่อไรถึงควรหยุดงาน?

เรามาเริ่มกันที่สิ่งนี้ก่อน นั่นคือ ป่วยมากแค่ไหนถึงควรจะต้องหยุดงาน เอาอะไรเป็นมาตรฐาน ตามความเห็นของแพทย์แล้ว หากพบว่าตัวเองมีไข้ ก็ควรพักผ่อนอยู่ที่บ้านจนกว่าไข้จะลดลงจนถึงอุณหภูมิปกติมากกว่า 24 ชั่วโมง การมาทำงานทั้งๆ ที่ยังมีไข้ นอกจากจะเป็นการทรมานตัวเองไปเปล่าๆ ทำให้ไข้ลดลงช้ากว่าเดิม ใช้เวลาในการรักษาตัวนานกว่าเดิมแล้ว ยังเสี่ยงต่อการติดเชื้อไวรัสอื่นๆ เพิ่ม อาจทำให้อาการแย่ลงไปกว่าเดิมอีกด้วย แทนที่จะเป็นไข้หวัดธรรมดาๆ อาจเป็นไข้หวัดใหญ่จนอาจต้องเข้าโรงพยาบาล เสียเงินเสียเวลาเยอะกว่าเดิมก็ได้

 
 ไม่อยากแพร่เชื้อหวัดให้เพื่อนร่วมงาน ควรทำอย่างไร?

    ปิดปากตัวเองเวลาไอ หรือจาม ด้วยข้อศอก ไม่ใช่มือ เพราะหากไอ หรือจามใส่มือ แล้วใช้มือจับสิ่งของต่างๆ อย่างลูกบิดประตู คีย์บอร์ดคอมพิวเตอร์ที่ต้องใช้ร่วมกัน เครื่องถ่ายเอกสาร เครื่องกดน้ำ ก๊อกน้ำ ฯลฯ อาจเป็นการแพร่เชื้อหวัดไปสู่ผู้อื่นได้โดยไม่รู้ตัว

    ลดการพบปะพูดคุยกับผู้อื่นในระยะใกล้ หรือหากงดการอยู่กับคนอื่นในพื้นที่จำกัดอย่างในห้องประชุมเล็กๆ เป็นเวลานานได้ก็จะดี

    งดการจับมือทักทายกับผู้อื่น หากไม่จำเป็น

    พกกระดาษทิชชูเปียกที่มีสารฆ่าเชื้อโรค หรือเจลล้างมือตลอดเวลา เริ่มไอเริ่มจามเมื่อไร ก็ให้รีบเช็ดทันที หรือถ้าจาม หรือไอใส่สิ่งของ เช่น คีย์บอร์ด หน้าจอคอมพิวเตอร์ โต๊ะทำงาน ก็ควรรีบเช็ด

    ใส่หน้ากากอนามัยตลอดเวลา

    อย่าลืมทานยาให้ตรงเวลา ห้ามขาดยาเด็ดขาด

สิ่งสำคัญคือระหว่างที่กำลังป่วย ควรงดกิจกรรมที่ต้องอยู่ร่วมกับคนเยอะๆ เช่น การไปออกกำลังกายที่ฟิตเนส ทานข้าวกับเพื่อนๆ การที่เรามีจิตสาธารณะที่ดี พยายามไม่ทำให้คนอื่นต้องเดือดร้อนไปด้วย ถือว่าเป็นการกระทำที่เราพึงปฏิบัติ แล้วอย่าลืมดื่มน้ำอุ่น ทานอาหารอ่อนๆ และพักผ่อนเยอะๆ ด้วยนะคะ ขอให้หายไวๆ กลับมาแข็งแรงเร็วๆ ค่ะ


ลืมกินยา ทำอย่างไร ก่อน-หลังอาหารกี่นาที?

เชื่อว่าหลายคนอาจจะมีอย่างน้อยครั้งหนึ่งที่เมื่อต้องทานยาก่อน หรือหลังอาหาร และลืมทาน หรือลืมพกยามาด้วย ทางคนเลือกที่จะทานเลยเดี๋ยวนั้น บางคนก็เลือกที่ข้ามมื้อนั้นไปเลย จริงๆ แล้วเราควรทำอย่างไร หรือยาก่อนและหลังอาหารเราควรทานเมื่อไรถึงจะดีที่สุด

 

ยาก่อนอาหาร

ยาก่อนอาหารเราควรทานก่อนอย่างน้อย 30 นาทีค่ะ และต้องทานขณะที่ท้องยังว่าง คือไม่ได้ทานอะไรในระหว่างนั้น ทั้งนี้เพื่อให้ยาไม่โดยน้ำกรดในกระเพาะอาหารทำลายจนหมด นอกจากนี้หากทานยาก่อนอาหารพร้อม หรือหลังอาหารอาจทำให้ยาดูดซึมเข้าสู่ร่างกายได้น้อยลง เพราะเจอกับส่วนประกอบของอาหาร และยาบางชนิดต้องการเวลาประมาณ 30 นาทีก่อนที่จะออกฤทธิ์อีกด้วย

 

หากลืมทานยาก่อนอาหาร ควรทำอย่างไร?

ไม่ควรทานพร้อม หรือหลังอาหาร ควรข้ามมื้อนั้น แล้วไปทานก่อนอาหารมื้อถัดไปแทน หรืออาจจะทานอีกทีหลังมื้ออาหาร 2 ชั่วโมงก็ได้ ซึ่งเมื่อถึงมื้อถัดไปก็ไม่ต้องทานยาก่อนอาหารแล้ว (คือทานแทนยาก่อนอาหารมื้อถัดไปไปเลย)

 
ยาหลังอาหาร

ควรทานยาหลังอาหารทันที หรือไม่ควรเกิน 15 นาที นอกจากนี้ยังสามารถทานพร้อมอาหาร หรือก่อนอาหาร ก่อนตักข้าวเข้าปากคำแรกก็ได้ เพราะไม่ว่าอย่างไรจุดประสงค์ของยาหลังอาหารคือ ให้ยาเข้าไปอยู่ในกระเพาะอาหารพร้อมๆ กับอาหารนั่นเอง เพราะยาหลังอาหารอาจทำให้ระคายเคืองกระเพาะอาหาร และยาบางชนิดอาจต้องการกรดในกระเพาะอาหารเพื่อช่วยดูดซึมตัวยาเข้าร่างกายได้ดีขึ้น


หากลืมทานยาหลังอาหาร ควรทำอย่างไร?

หากยังอยู่ในระยะเวลาไม่เกิน 15 นาที ยังพอกินตามทัน แต่หากเลย 15 นาทีไปแล้ว ควรทานมื้อถัดไปเลยดีกว่า หรือหากเป็นยาที่สำคัญมากๆ ควรทานอาหารมื้อย่อย แล้วทานยาหลังอาหารมื้อย่อยนั้นแทน

 
ยาก่อนนอน

ควรทานก่อนนอน 15-30 นาที เพราะหากทานก่อนหน้านั้นนานเกินไป อาจทำให้ง่วงนอนจากฤทธิ์ของยา ประสิทธิภาพในการทำงานต่างๆ ก็จะลดลงไปด้วย ควรทานตอนที่พร้อมจะเข้านอนแล้วจริงๆ เท่านั้น


หากลืมทานยาก่อนนอน ควรทำอย่างไร?

ลืมแล้วลืมเลย ทานอีกทีตอนก่อนนอนของคืนถัดไปได้เลย ไม่ควรทานในตอนเช้าของวันถัดไป

นอกจากนี้ สำหรับยาที่ทานเฉพาะเมื่อมีอาการ เช่น พาราเซตามอลที่ช่วยลดไข้ ปวดหัว สามารถทานได้เลยเมื่อมีอาการ และยาหมดฤทธิ์และยังมีอาการอยู่ สามารถทานต่อได้ (ในระยะเวลาที่กำหนด) และหยุดยาได้ทันทีเมื่อไม่มีอาการแล้ว แต่ยาบางชนิดมีวิธีทานที่แตกต่างไปจากยาทั่วไป ควรสอบถามแพทย์ และเภสัชกรเป็นกรณีๆ ไปค่ะ



ดูแลสุขภาพ: วิธีป้องกันเชื้อหวัด แพร่กระจายในที่ทำงาน อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ https://www.healthyhitech.net/
บันทึกการเข้า